“สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง” โชว์ “บ้านใหม่ สองแคว” ชุมชนต้นแบบ

สถาบันวิจัยด้วยกันพัฒนาพื้นที่ดำเกิง โชว์ “นิวาสสถานใหม่ ญิบลำน้ำ” ชุมชนต้นเค้า ผลัดกันข้าวโพดครอบครองผักปึกแผ่น ตัดทอนใช้สารเคมี ให้เป็นอิสระหนี้ครอบครัวบนบานศาลกล่าวฐานเศรษฐกิจพอเพียงได้มาเป็นผล ยกหมู่บ้าน รั้งขึ้นสิ่งกลมๆดราฟท์อินถ่ายรูปสองพืชผัก จับความเข้าใจ พลานามัย กับความสุข อธิปวเฝือิตติ ธนูีพระอาทิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดย่าน เป็นประธานดึงขึ้นอู่ทำความเข้าใจพืชผักเสถียร “ที่อยู่นวชาต ” ที่โล่งแจ้งต้นแบบการ ลด เว้น ล้มเลิก ชดใช้สารเคมี โดยการชดใช้องค์เมธาขนมจากแผนหลวง ซึ่งแจ๋เพราะว่า สถาบันค้นคว้าด้วยกันพัฒนาเนื้อที่สูง (หน่วยงานหมู่ชน) หรือไม่ก็ สำนักเลขาธิการวุฒิสภาพส. นำเพราะ หัวหน้าวิราตรีน์ กำราบทุกข์เข็ญ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยด้วยกันพัฒนาพื้นที่ดำเกิง มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ดร.มวลชน แสนกลางๆ นายอำเภอหญิบแม่น้ำ หัวหน้าหน่วยร.แห่งหนพัวพัน บุคลากรหน่วยงานภาครัฐด้วยกันภาคเอกชน ผู้นำกับวงจรข่ายแนวร่วมเกษตรกร ด้วยกันสื่อมวลชน ร่วมงานเพื่อที่จะเรียนรู้ศึกษางานกับการสอนเทคโนโลยีชุมชนต้นเค้า เป็นมากมาย ใน ชุมชนต้นเค้านิวาสสถานใหม่ พวก 4 ตำบลที่นาทุ่งสาธารณะ อำเภอสองลำน้ำ จ.เขต หัวหน้าวิราตรีน์ ปรามทุกข์ เจ้าสำนักสถาบันค้นคว้ากับเจริญพื้นที่ดำเกิง กล่าวว่า ที่โล่งแจ้งสถานที่ตรงนี้ ตำแหน่งปัญหาเก่าแก่คือว่าการเกษตรตีนลำพัง ลงความว่าสร้างข้าวโพดแห่งหนมีงานใช้สารเคมีและเงินรายได้สถานที่เปล่าเพียงพอ มีผลประกบอนามัยสรรพสิ่งคนในหมู่บ้านด้วยกันหนี้ครัวเรือน แม้ว่าชุมชนประกอบด้วยความแข็งแกร่ง และสร้างประชาคมหมู่บ้านเพื่อจะขจัดปัญหา เพราะเริ่มในที่ช่วงปี 2552 ดำรงฐานะสิ่งของและจุดกำเนิดที่สำคัญ กับทางสถาบันค้นคว้ากับปฏิรูปพื้นที่ดำเกิง ได้มาจับตัวความฉลาดกับการค้นคว้าวิจัยสถานที่ครอบครองรูปธรรมขนมจากโครงการหลวง ลงมาทำให้เสมอใช้คืนปันออกสมน้ำสมเนื้อในการพัฒนาเนื้อที่ของหมู่บ้านแห่งหนนี้ ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า สิบ พรรษา ประกอบด้วยการแก้ไข เยียวยา ปฏิรูปอย่างต่อเนื่องกระเป๋าแห้งทำเอาหมู่บ้านนวชาต สามารถลดเนื้อที่งานสร้างข้าวโพดกับตัดทอน ละ เลิกงานใช้สารเคมีได้สำเร็จ มีการปรับพื้นสถานที่ปลูกผักหนักแน่นเพื่อจะการบริโภคในที่โล่งแจ้งกับทำการค้าผลิตผลออกลูกไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ทำเอาชาวที่สาธารณะ ประกอบด้วยอนามัยสถานที่ทุเลา ซึ่งส่งผลการตรวจวัดสารเคมีปนเปื้อนกับค้างอยู่แห่งกระแสเลือดแข็งตัวบ่งบอกวัดได้มา ด้วยกัน หนี้ครัวเรือนลดน้อยลง จากงานลดต้นทุนการผลิต อาทิค่าขี้เซาค่ายา คุณประโยชน์สารเคมี ด้วยกันมีเงินรายได้เพิ่มเติมจากงานตั้งขึ้นท้องตลาดห้างร้านชุมชน เพื่อจับผลเก็บเกี่ยวพืชผักหนักแน่น ผลิตผลกิ่งไม้ผล ต้นพริกหวาน องุ่น มะนาว จับไปจำหน่าย ซึ่งจากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มพูนเงินรายได้ เป็นเหตุให้ที่โล่งแจ้งที่อยู่ใหม่ ครอบครองที่สาธารณะแห่งหนตลอดหมู่บ้านพร้อมใจกันลด เว้น เลิกใช้สารเคมี ด้วยกันเปลี่ยนแปลงการใช้พื้นที่การเกษตรได้มาประการคุ้มค่ากับยั่งยืน นางลำไย สุฤทธิ์ อายุ 65 ชันษา สิงสู่ที่อยู่เลขที่ สิบ มัธยมศึกษา4 นิวาสสถานใหม่ ต.ที่นาไร่สาธารณะ อ.สองแม่น้ำ จ.น่าน พูดแหว ก่อนหน้านี้สร้างข้าวโพดมากมายทุ่ง ทะเลาะวิวาทเนื้อความสุขภาพอนามัย และวิเคราะห์พานพบหัสดินค้างอยู่ปนเปื้อนแห่งกระแสเลือดยิ่งนัก เมื่อเข้าร่วมแผนการสาธารณะมันทิรไผ่ นิวาสสถานใหม่ ได้ปรับลดพื้นที่การกสิกรรมปลูกผักเสถียร หลงเหลือเพียง 1 นา และตัดทอนเลิกใช้สารเคมี ปัจจุบันอนามัยทุเลา และเปล่าพานพบกรีค้างอยู่ในที่โลหิตอีก ยิ่งไปกว่านี้อีกต่างหากได้ดองพืชผักเสถียร นำจากไปทำการค้าที่ตลาดร้านค้าที่สาธารณะประกอบด้วยรายได้เช่นกัน ที่สาธารณะที่อยู่นวชาต นับว่าเป็นชุมชนต้นเค้าแผนสาธารณะและครอบครองแหล่งเรียนรู้ ด้านการเกลี่ยกบิลทุ่งแห่งหนลด เว้น เลิก งานชดใช้สารเคมี เป็นมิตรประกบที่แวดล้อมตามวิถีทางแผนหลวงแบ่งออกกับดักชาวไร่ชาวนา หน่วยงาน และผู้แหย่ทั่วไปในเนื้อที่ธานีน่าน คว้าเข้ามาทำความเข้าใจด้วยกันศึกษา เพื่อที่จะสามารถจับอวัยวะความฉลาดสรรพสิ่งสถาบัน ตัวความฉลาดขนมจากองค์การแตกต่าง ๆ ที่สมรรถนำเจียรปรับใช้ในกิจธุระปฏิรูปเนื้อที่สูงศักดิ์ พร้อมทั้งก่อกำเนิดโครงข่ายการเรียนรู้สมรู้ร่วมคิดในเนื้อที่บุรีย่านเพื่อจะขยายผลสำเร็จของการพัฒนาตามแนวทางแผนสาธารณะถัดไป เกี่ยวกับรายเนรมิตแผนการพัฒนาพื้นที่สูงศักดิ์ร่างโครงการหลวงมันทิรไผ่ เรือนนวชาต ต.ที่นาทุ่งหลวง อำเภอหญิบลำน้ำ จ.น่าน มีจำนวนรวมชาวนาชาวไร่ 34 ราย ผลรวมทำนา 42 แปลง พื้นที่ไร่หมดด้วยกัน 267.07 นา ซึ่งดำรงฐานะชาวนาชาวไร่ทั้งหมู่บ้านแห่งหนปรับเปลี่ยนจากทุ่งข้าวโพด เป็นสวนผักหนักแน่น ด้วยกันได้มาทำเป็นอู่เรียนรู้ เปิดโอกาสปันออกคนและหมู่พวกเข้าไปเรียนรู้ดูงานได้ โดยจัดทำครอบครอง 10 กก เป็นต้นว่า โคนแห่งหน 1 องค์เมธาเพื่อการพัฒนาเนื้อที่สูงศักดิ์ , โคนแห่งหน 2 พืชผักปึกแผ่น , กกสถานที่ 3 การปรับปรุงธรณีด้วยกันการผลิตปุ๋ย , กกแห่งหน 4 พืชไร่บนบานศาลกล่าวพื้นที่ดำเกิง , ฐานที่ 5 อุตุนิยมวิทยาเพื่อการพัฒนาบนบานศาลกล่าวเนื้อที่ดำเกิง , โคนสถานที่ 6 งานลดใช้สารเคมีและการใช้คชาชาติชีวภัในที่ฑ์นา , กกสถานที่ 7 เกณฑ์ผลผลิตที่ประกอบด้วยคุณภาพ , โคนที่ 8 ชุมชนต้นเค้าการพัฒนาพื้นที่สูงศักดิ์ , ฐานที่ 9 ตลาดที่โล่งแจ้ง ด้วยกันกกแห่งหน 10 การปรับระเบียบไร่สถานที่ญาติดีประกบบริเวณแวดล้อมศึกษาศึกษางานภายในทำปรับระเบียบการปลูกสร้างพืชขนมจากพืชไร่สู่การทำสวนค่าคบไม้เอาท์พุตแปลนผสมผสานสิ่งของ “อธิปเจอ นึกถึง” เท้าหน้าชาวไร่ชาวนานิวาสสถานใหม่ นอกจากนี้ สถาบันค้นคว้าด้วยกันปฏิรูปพื้นที่สูงศักดิ์ ยังประกอบด้วยพื้นที่ศึกษาดูงานในบุรีน่าน อีก สิบเอ็ด เนื้อที่ ใน 9 อำเภอ 96 หมู่บ้าน ซึ่งในที่แต่ละเนื้อที่ประกอบด้วยบริบทการพัฒนาที่ผิดแผกแตกต่างกักคุม เพราะว่างานใช้คืนอวัยวะความรู้ ด้วยกันกระบวนการเรียนรู้จากแผนการสาธารณะประสมประสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่นในที่การพัฒนาชุมชนบนบานพื้นที่ดำเกิง ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งก่อให้เกิดการทำงานระหว่างองค์การกับชุมชน เอาใจช่วยปันออกที่โล่งแจ้งสมรรถปฏิรูปตัวเองคว้าอย่างยืดยาว