รู้รักสามัคคี หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

รักษาสร้างประโยชน์สุขสู่มวลประชา seksan2493@yahoo.com เข้าใจรักปรองดอง หลักรักษาการงานสรรพสิ่งพระสงฆ์บาทสมเด็จพระมหากษัตริย์เขาไม่ทหารอดุลย์ยเดชะ นับตั้งแต่อยู่ขึ้นครองบัลลังก์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9ได้ดำรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อที่จะประโยชน์สุขของพลเมืองทั่วรวมหมดด้าวทั่วเขตปะปนกันของเข้าผู้เข้าคนไทย เช่นเดียวกับตุ๊เจ้าประถมบรมราชโยงการที่พิธีบรมราชาภิเษก พอวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ กรณีว่า “อิฉันจะครองแผ่นดินเพราะคุณความดี เพื่อประโยชน์สุขสถานที่ฝูงชนชาวประเทศสยาม” ตุ๊เจ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคีรีไม่ทหารอดุลย์ยบารมีดำรงทุ่มเทพระวรกายประการรักษากรำพร้อมด้วยพระราชปณิธานเพื่อจะมุ่งขอดแก้ไขปัญหาความลำบากปันออกพลเมืองทั่วประเทศทุกเขต ไม่ว่าเผ่าพันธุ์ไร พระศาสนาไหนสิงสู่ห่างไกลเพียงใด โดยได้รักษาเข้าสนับสนุนประชาชนตลอดมุขปีกสาธารณสุข การเรียนรู้ สาธารณูปโภคขั้นแรก การกสิกรรม การปฏิสังขรณ์ทรัพยากรธรรมชาติกับที่แวดล้อม หรือไม่ก็การจราจร เพราะรักษาคิดดูควานหาหลักขบปัญหาพอให้ราษฎรดำรงชีพอยู่คว้าประการมีความสุขบนบานศาลกล่าวพื้นฐานพอสิงสู่พอกิน ตลอดจนได้มาพระราชทานวิถีทางดำรงการทำงาน ที่ดำรงเกาะงานกระทำงานแห่งรูปร่างทางสายกลางแห่งคล้องจองกับดักอันที่อยู่รอบกายด้วยกันสามารถทำคว้าแน่นอน เพื่อผลแห่งการพัฒนาสถานที่มุ่งสู่ผลดีมากมายสรรพสิ่งกลางเมืองครอบครองจุดหมายสุดท้าย แนวทางทรงธุรกิจประการหนึ่งสถานที่ทรงให้ความสำคัญ ลงความว่าเนื้อความ “เข้าใจ มลัก เข้ากันได้” ด้วยเหตุที่พระบาทาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแผ่นดินสถานที่9ทรงประกอบด้วยพระราชดำรัสที่กรณี “เข้าใจ มลัก เข้ากันได้” มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเอาครอบครองถ้อยคำตรีคำสถานที่มีคุณค่าด้วยกันความสำคัญลุ่มลึก ครบถ้วนเกลี่ยใช้ได้กับทั้งปวงสมัยทั้งหมดสมัย เข้าใจ รวมความว่า งานสถานที่เราจักลงมือกระทำสิ่งใดนั้น จะจำเป็นจะต้องแจ้งชำรุดก่อน เข้าใจถึงสิ่งของทั้งผอง เข้าใจจดปัญหากับเข้าใจจดกระบวนการแก้ปัญหา รัก ลงความว่า ความรัก ครั้นเราเข้าใจครบอีกด้วยกระบวนความต่อจากนั้น จะจำต้องประกอบด้วยความรักใคร่การพินิจที่จะเข้าไปลงมือทำแก้ไขปัญหานั้นๆ สามัคคี คือ การที่จะจัดการทำตรงนั้น ควรพิจารณาเสมอว่า ดิฉันจะลงมือข้างเดียวไม่ได้ จำต้องกระทำร่วมแรงร่วมใจเป็นหน่วยงานดำรงฐานะหมู่คณะ แล้วจึงจักมีพลังเข้าขบปัญหาแบ่งออกเสร็จจรได้มาด้วยดี ยิ่งไปกว่านั้นวิถีทางรักษาการทำงานข้อความ “เข้าใจ มลัก เข้ากันได้” แล้ว พระบาทาสมเด็จกษัตริย์คีรีมิทหารอดุลย์ยอิทธิพลอีกทั้งได้มาพระราชทานหลักแก้ไขการขัดกันด้วยกันวิกฤติการณ์แห่งชนชาติที่ผ่านมา อาทิเช่น ที่รูปการณ์ปะปนกัน เช่น วิกฤติการณ์ ๑๔ ตุลาคม วิกฤตการณ์พฤษภาทมิฬ กับวิกฤตการณ์การเลือกตั้ง ๒ เดือนที่ 4 ๒๕๔๙ โดยคว้าพระราชทานพระบรมราโชวาทกับพระราชดำรัสเตือนสติประชาชนจ่ายสำนึกและหันมากลมกลืนกัน นำไปสู่งาน “รู้ มลัก สมัครสมาน” ดังนี้ เหตุการณ์วิกฤตการณ์ ๑๔ เดือนตุลาคม ตุ๊เจ้าเท้าสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินแผ่นดินสถานที่9ดำรงใช้คืนตุ๊เจ้าราชสิทธิและตุ๊เจ้าทศบารมีในที่การแก้ไขรูปการณ์พอวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ เหตุเดิมขึ้นจากการร่วมชุมนุมสิ่งของเด็กนักเรียน นักศึกษา นิสิตและประชาชนมากมาย เพื่อจะค้านรัฐบาลจอมพลถนอม คำเล่าลือแพร่ ด้วยกันนำไปสู่งานใช้คืนความรุนแรงเป็นเหตุให้ประกอบด้วยผู้ป่วยด้วยกันเสียชีวิตมากคน จนในบั้นปลายจอมพลถนอมกล่อมเกลี้ยง คำเล่าลือฟุ้งแล้วจึงได้มาข่าวสารลาออกขนมจากระดับนายกรัฐมนตรี และพระสงฆ์เท้าสมเด็จกษัตริย์ภูเขามกำลังอดุลยอิทธิพลดำรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งผู้เป็นใหญ่สัญญา ธรรมอำนาจ ครอบครองนายกฯ ด้วยกันได้พระราชทานพระราชดำรัสทางวิทยุด้วยกันทีวีแก่พลเมืองคนไทย โดยทรงเรียกกลางวันดังที่กล่าวมาแล้วว่า ทิวากาลใหญ่พลัดพราก เพราะรูปการณ์ดังที่กล่าวมาแล้ว เป็นเหตุให้มีการปะทะกักคุม ไม่มีเงินทำเอาคนไทยจำเป็นจะต้องตายครอบครองจำนวนมาก เพราะทรงขอทุกฝ่ายตั้งสติอดกลั้นข้อความแห่งความรุนแรงและดำรงขอร้องกลางเมืองช่วยเหลือรัฐบาลใหม่ เพื่อจะนำชาติจ่ายกลับสู่สถานะปกติ อย่างกับพระราชกระแสรับสั่งพระราชทานวางเนื้อความระยะหนึ่งดุ “มันสมอง.มันสมองวันนี้เป็นทิวากาลมหาพลัดพราก ที่น่าสลดหดหู่เศร้าใจอย่างยิ่งในที่ตำนานชาติไทย ตลอดเวลา ๖-๗ วันที่เปลี่ยนมาได้มาประกอบด้วยการอยากกับพูดจากัน จนกระทั่งนิสิตและรัฐบาลทำข้อตกลงกันคว้า แต่แล้วมีการโยนระเบิดขวดด้วยกันลั่นไกแก๊สน้ำตาขึ้นไป ทำให้เกิดการชนช้างห้าม ด้วยกันมีมนุชได้รับบาดเจ็บหลายมนุช ความร้ายกาจได้มาเพิ่มขึ้นไปตลอดเมืองหลวงถึงขั้นความวุ่นวาย และอีกทั้งเปล่ายุติมันสมองมันสมองมันสมอง ขอทุกฝ่ายทั้งหมด จงอดกลั้นกรณีที่ความร้ายกาจอีกด้วยการตั้งสติยับยั้ง เพื่อให้ชาติบ้านเมืองกลับคืนไปสู่ระดับสามัญเร็วที่สุดมันสมองมันสมองมันสมอง ขอทุกคนทุกฝ่ายร่วมกันเอื้อเฟื้อ เพื่อให้กลุ่มรัฐบาลใหม่สมรรถดำเนินงานพื้นแผ่นดินได้มา เพราะว่ามีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมและแก้ไขสถานการณ์จ่ายคืนสู่ระดับสุภาพเรียบร้อยได้มาโดยด่วน อีกทั้งความสงบสบาย ความเจริญรุ่งเรืองจ่ายบังเกิดอายุมากแดนด้วยกันประชาชนชาวไทยโดยทั่วถึง.มันสมอง.” วิกฤตการณ์พฤษภาทมิฬ เมื่อดวงเดือนพฤษภาคม ๒๕๓๕ ประชาชนคว้าชุมนุมต่อต้านมุ่งหมายรัฐบาลกับคัดค้านกองพลดีเลิศสุจินดา หนวงศ์ตระกูล นายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดเหตุการณ์การเผชิญหน้าห้ามอย่างหนักระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านรัฐบาลจวบจนถึงขั้นเจ็บชำรุดทรุดโทรมเลือดชำรุดเนื้อ ทว่าอีกด้วยตุ๊เจ้าทศบารมีปกเกเพลียฯ พระเท้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคีรีมิกองพลอดุลยเดชะทรงตุ๊เจ้าโปรดโปรดเกล้าฯ ปันออกนายสัญญา คุณความดีอำนาจ ประธานองคมนตรีด้วยกันพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรี จับกองพลดีเลิศสุจินดา ครั้งวงศ์ตระกูล นายกรัฐมนตรีและพล.ต.จำลอง ศรีเมืองผู้นำงานค้านรัฐบาล เข้าเฝ้ากล่าวฝุ่นธุลีพระสงฆ์พระบาทรับกระแสพระราชดำรัส เพราะทรงเตือนสติจ่ายผู้มีส่วนข้องแวะคว้าช่วยกันแก้ไขชาติ กระเป๋าแห้งในบั้นปลายรูปการณ์กระยาเลย ก็สงบลง ดังพระราชดำรัสพระราชทานเก็บ ข้อความตอนหนึ่งว่า “มันสมอง..โจทย์วันนี้มิได้ปัญหาของการตราหรือไม่ก็แก้ไขรัฐธรรมนูญ ทว่าโจทย์ขณะนี้รวมความว่าความปลอดภัยด้วยกันขวัญสรรพสิ่งประชาชน ซึ่งปัจจุบันนี้ประชาชนสาธารณะทุกหัวระแหงคราวมีความระแวงตวาดจะเกิดภัย มีความหวาดระแวงดุด้าวจะล่มจม.มันสมอง. โดยเหตุนั้น ก็ขอร้องประสกเอ็งโดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิบคุณ กำลังเอกสุจินดา กับพลตรีเลียนแบบพร้อมใจกันตรึกตรอง รวมความว่าผินหน้าเข้าพบกักคุม มิได้สู้หน้าห้าม ก็เพราะว่าเป็นแดนสรรพสิ่งดิฉัน ไม่ใช่เช่นนั้นด้าวสรรพสิ่งหนึ่งมนุษย์สองคน ดำรงฐานะแดนของทุกคน จำเป็นจะต้องไปพบกักคุม เปล่าสู้หน้ากักคุมขบปัญหาเพราะว่าอันตรายประกอบด้วยสิงสู่ เวลามนุษย์เราก่อเกิดความวิปลาสโลหิตจัดการหนักหน่วงกัน มันลืมตัว จบก็เขลาดุทุบกันเหตุใด แล้วจึงจะขบปัญหาอย่างไร เสียแต่ว่าจะต้องเอาชนะ จึ่งใครจะชนะ ไม่มีวันชนะ อันตรายทั้งหมด ประกอบด้วยทว่าจำนน รวมความว่า แตกต่างมนุษย์ต่างแพ้ ผู้ที่สู้หน้าก็จำนน ต่อจากนั้นสถานที่จำนนสุดโต่งรวมความว่าบ้านเมือง กลางเมือง จะดำรงฐานะกลางเมืองรวมหมดด้าว.มันสมอง. ฉะนั้นแล้วก็ขอร้องทั้งคู่ประสกเอ็งเข้า คือไม่สู้หน้า แต่จำเป็นจะต้องหันเข้าพบกักคุมและคู่คุณนี้เท่ากับเป็นผู้แทนสรรพสิ่งทิศกระยาเลย ลงความว่าไม่ใช่เช่นนั้นสองฝ่าย ลงความว่าด้านต่างๆ แห่งรอหน้ากักคุม ปันออกร่วมแรงร่วมใจแก้ปัญหาเดี๋ยวนี้ลงความว่าความร้ายกาจเค้าเดิมขึ้น ต่อจากนั้นครั้นแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้มาต่อจากนั้น จักลงมาเอ่ยปากห้ามพิจารณาหารือกันว่าจะสร้างอย่างไรสำหรับปันออกประเทศไทยได้ประกอบด้วยการสร้างเจริญขึ้นมา ได้มาหวนกลับคืนได้โดยดีมันสมอง..” วิกฤติการณ์การเลือกตั้ง ๒ เดือนที่ 4 ๒๕๔๙ พระบาทาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพนมมิทหารอดุลย์ยอิทธิพลรักษาระมัดระวังดำรงฐานะอย่างยิ่งที่จะใช้คืนพระสงฆ์ราชอำนาจสิ่งของจุฑาธิปไตยเปล่าจ่ายเลยขอบเขตสิ่งของกฎหมายสูงสุด ตัวอย่างเช่นครั้นเกิดเหตุเหตุการณ์ชุมนุมต่อต้านโพกหัวเจ้าหน้าที่ตำรวจโท ทักษิณ ไชนะความประพฤติ นายกรัฐมนตรี กระเป๋าแห้งนำสู่การตกลงใจยุบสภาตัวแทนหยุดษฏร พอวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ ในที่เนื้อความงานใช้คืนพระสงฆ์ราชอำนาจในที่การแก้ปัญหาน่ากลัวของด้าว ตุ๊เจ้าบาทาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคีรีไม่ทหารอดุบยบารมีดำรงวางพระองค์ชนิดพอเหมาะเหมาะเหม็ง โดยทรงตระหนักถึงบทบาทกิจของพระเจ้าแผ่นดินภายใต้รัฐธรรมนูญและทรงให้ความสำคัญกับดักการปกครองแห่งระบอบประชาธิปไตยเทียบเท่า พร้อมด้วยตระหนักในที่บุญคุณประการควานหาแรงกล้าไม่ใช่เช่นนั้น ทั่วสมัยที่ผ่านมา พระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพนมไม่กองพลอดุลยอิทธิพลคว้าพระราชทานหลักเยียวยาการขัดกันและวิกฤตการณ์แห่งชนชาติแห่งข้อความต่างๆ ทำให้สมรรถล้มเลิกวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นไปคว้าทันทีทันใด พระราชดำรัสแห่งพระราชทานย้ำปันออกสังคมแหลมทองชาวไทยคงอยู่ได้ที่สำนึกสถานที่นัยที่การ “เข้าใจ รัก สามัคคี”รวมฤทธิ์อดกลั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่แบ่งออกรุกแพร่กระจายถัดไป และเอาใจช่วยเตือนสติแก่ผู้แห่งข้องแวะบรรดาปันออกตระหนักถึงความถูกต้องยุติธรรมดำรงฐานะอย่างดี จับความสงบเงียบเปรมสุขสบายไปสู่ประเทศเรื่อยๆมา