“โรคไหม้” ระบาดนาข้าว!! กรมการข้าว เร่งช่วยชาวนา แนะใช้ข้าวพันธุ์ต้านทานโรค

วันที่ 27 ต.ค. หัวหน้าสุดๆสาคร ประเสริฐโป้ปดมดเท็จลุกลนิษฐ์ อธิบดีกรมการภัต กล่าวว่า ขนมจากสถานการณ์ที่ได้ก่อกำเนิดโรคภัยไข้เจ็บเผากระจัดกระจายณเนื้อที่ที่นาข้าวบุรีสุรินทร์ กับธานีจังหวัดศรีสะเกษ กำลัง.อำเภอประยุทธ์ เดือนโอชา นายกฯ อธิปประอาหารร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการไร่และสหกรณ์ และกรมการภัต ได้ประกอบด้วยความห่วงใยชาวนา โดยวางแผนประการด่วน เพื่อให้การเอื้อเฟื้อ โดยสั่งการแบ่งออกพนักงานที่พัวพัน ตลอดส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มอบหาวิถีทางเอื้อเฟื้อชนิดด่วนกับร่วมมือกันองค์การแห่งพื้นที่ เพื่อจะเป็นการทำงานแบบการรวมกัน มี พ่อเมือง ไร่ด้วยกันสหกรณ์ธานี ไร่จังหวัด บุคลากรกรมการภัต ซึ่งจากกิจธุระณโอกาสนี้ กะแหวจักเอาใจช่วยช่วยเหลือความลำบาก มอบแก่เกษตรกรแห่งหนมีกรรมสิทธิ์ความกระทบกระเทือนขนมจากการกระจัดกระจายสรรพสิ่งโรคไหม้ณคราวนี้คว้า เพราะว่าความเจ็บป่วยเผาตัวการเกิดจากเชื้อรา พบทุกเขตสิ่งของแหลมทอง ณชั้นอาหารนาสวนด้วยกันอาหารไร่ ตลอดอุตุนาปีกับอุตุนาปรัง ลักษณะอาการ แห่งหนพานพบแห่งต้นไม้ใบหญ้าข้าวระยะต่างๆ มี ดังนี้ ระยะกล้าหาญ ใบประกอบด้วยแผลเป็นวงสีน้ำตาลคล้ายคลึงตัวนัยน์ตาประกอบด้วยหมอกอยู่ตอนกลางรอยแผล เหตุกว้างไกลสิ่งของแผลคาดคะเน 2-5 มิลลิเมตร และเหตุยาวคาดคะเน สิบ-15 มิลลิเมตร แผลสามารถคลายขยายด้วยกันขจรขจายตลอดดินแดนใบ ถ้าโรครุนแรงหาญกล้าอาหารจะแห้งฟุบสิ้นชีวิตอาการคล้ายคลึงไม่ผิดไฟไหม้ ช่องไฟแตกกอ ทีท่าพบถึงที่เหมาะใบ ข้อต่อสรรพสิ่งใบ และรอยเชื่อมของลําไม้ สัดส่วนแผลจักเทอะทะกระทั่งสถานที่พานพบที่ช่องว่างกล้า แผลแผ่ขยายต่อเนื่องพอดีบริเวณข้อต่อ ใบจะประกอบด้วยลักษณะรอยแผลระบมสีน้ำตาลดำนา กับโดยมากหลุดขนมจากกาบใบเทียบเท่า ช่องไฟทอดรวง เรียกหาดุความเจ็บไข้เผาศอช่อ อาหารสถานที่พึ่งจะเริ่มจ่ายพะวงพอไม่ผิดเชื้อราเข้าไปทําการเขียนเมล็ดจะตีบสิ้น แต่ผิ เป็นโรคช่วงรวงข้าวอายุมากจวนเจียนเก็บเกี่ยวจักปรากฏรอยแผลฟกช้ำสีน้ำตาลแห่งบริเวณศอรวงทำให้กรอบแกรบหักง่าย รวงข้าวหล่น เสื่อมเสียมาก การแพร่ระบาด พานพบความเจ็บป่วยไหม้ระบาดที่สร้างสถานที่ไม้ภัตคับคั่ง ทำให้อับมารุต แม้ใส่ปุ๋ยไนโตรเจนสูง มีขั้นกะหร่องที่ตอนกลางวัน ด้วยกันชื้นจ้าที่ตอนกลางคืน น้ำค้างนานถึงตอนสายเช่น 9 นาฬิกา ลมฟ้าอากาศติดจะตอนเย็นอุณหภูมิคาดคะเน 22-25 องศาเซลเซียส ความชุ่มชื้นสัมพันธน์สูงศักดิ์มากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ ด้วยกันลมพัดพลังจักสนับสนุนจ่ายความเจ็บป่วยแพร่สะพัดเจริญ เหตุด้วยการกันจ่าย1.ในกรณีที่พบพานความเจ็บไข้เผามีท่าสาหัส หรือพบพานเนื้อที่ใบเสื่อมเสียขนมจากงานเป็นโรคจด สิบ ร้อยละ แห่งภัต ช่องไฟหาญถึงถลายกอเต็มแรง ด้วยกัน 5 เปอร์เซ็นต์ แห่งภัตช่องไฟตั้งครรภ์ หรือไม่ก็พบแผลความเจ็บไข้เผาที่ใบธุช น่าจะใช้คืนมาตังค์ปิดป้องห้ามกําจัด โรคภัยไม้ เป็นต้นว่า ตรัยไซคลาโซล กระไอกระแอมโซโปรไธโอเลน (ควรจะชดใช้เจาะจงที่ช่องว่างกล้าจรดแตกกอ) ตามตำแหน่งที่เจาะจง 2.ในฤดูถัดไป น่าจะปฏิบัติ เช่น ชดใช้อาหารตระกูลค่อนข้างต้านความเจ็บไข้ พื้นที่กลาง อาทิเช่น สุพรรณบุรี 1 สุพรรณบุรี 60 จังหวัดชัยนาท 1 จังหวัดปราจีนบุรี 1 กุญชรงาม กับข้าวเจ้าหอมตลบอบอวล พิษณุโลก 1 เป็นต้น ภาคเหนือและท้องถิ่นอีสาน เช่น ข้าวเจ้าหอมขจรกระจายพิษณุโลก 1 จังหวัดสุรินทร์ 1 เหนียวบัว 2 ดั้งขว้างตอง1 ด้านหลังคลุกเคล้า 71 เอากลับคืนเมืองหลวง หงอกดินโป่งไคร้ สายธารร่อง ด้วยกัน กข33 เป็นต้น ปักษ์ใต้ เป็นต้นว่า ดอกเพิงยอม ด้วยกัน กข55 เป็นต้น ดังนี้ ข้อพึงระวัง : ภัตตระกูลสุพรรณ 1 สุพรรณ 60 และชัยนาท 1 แห่งปลูกแห่งภาคเหนือระยะใต้ พบดุแสดงอาการแรงในโปร่งเนื้อที่กับโปร่งแสงพรรษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งครั้นสิ่งแวดล้อมเห็นแก่อํานวย เช่น ฝนปรอยๆ ประกอบด้วยเทา น้ำค้างจ้า สภาพอากาศเวลาเย็น ให้ปุ๋ยยิ่งนักเกินเหตุจําเป็นน ไม่ก็ดำรงฐานะปฐพีข้างหลังน้ำหลาก เป็นอาทิ ยิ่งไปกว่านี้ น่าจะโปรยเมล็ดพันธุ์แห่งอัตราที่สมควร คือ 15-20 โลทาบทุ่ง ควรแบ่งแยกสร้างมอบมีการระบายอากาศ สถานที่บริสุทธ์ และไม่ควรจะใส่ปุ๋ยไนโตรเจนสูงศักดิ์เกินเลย ถ้าหากสูงศักดิ์ถึง 50 โลประกบทุ่ง โรคภัยไหม้จักเจริญอย่างรวดเร็ว และเคล้าเมล็ดพันธุ์อีกด้วยทวิรทปิดป้องห้ามกําแก่เชื้อรา เช่น ตรีไซคลาโซล คาซูกาต้มน้ำไมซิน ตามอัตราสถานที่ระบุ