โครงการหลวง สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ พลิกฟื้นชีวิตคนไทย พลิกฟื้นผืนป่าผืนน้ำ สู่ความยั่งยืน

ทรงสร้างประโยชน์สบายสู่มวลประชา แผนหลวง หน่วยงานนาสาธารณะอินทนนท์ พลิกฟื้นชีวิตคนไทย พลิกฟื้นป่าผืนน้ำ ไปสู่ความคงทนถาวร เสกสรร สิทธาคม Seksan2493@yahoo.com 40กระทั่งปีที่แล้ว สิงขรแห่งเมืองเหนือแห่งเต็มไปด้วยนาฝิ่น กลายเป็นทิวทัศน์คุ้นตา แห่งยุคนั้น ภาพแห่งคนเดินดินคนไทยดอย กล้ำกรายพื้นที่ป่า ตัดไม้ทำลายป่า เพื่อนำพื้นที่มาสร้างฝิ่นหรือไม่ก็การทำไร่ทำนาไร้จุดหมาย โดยเฉพาะคนดอยในที่อดีตสมัยปลูกสร้างฝิ่นดำรงฐานะรายได้เสา ฝิ่นตกเป็นพฤกษาทำเงินเช่นชนิดข้างเดียวแห่งรู้จัก พืชอื่นๆ เช่น ข้าว ข้าวโพดฯลฯ ตรงนั้น ก็ปลูกสร้างเพื่อที่จะเก็บรับประทานด้วยกันเลี้ยงสัตว์ ขนาดนั้น อีกด้วยใจห่วงใยหมู่ชนคนไทยและแว่นแคว้นของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แห่งทรงเล็งเห็นความสำคัญของเนื้อที่ไพร ทรัพยากรธรรมชาติที่เกี่ยวข้องเกื้อกูลเช่นแหล่งน้ำ สรรพสัตว์สิ่งรวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของมนุชแห่งจำต้องพึ่งทรัพยากรธรรมชาติชนิดหลีกเลี่ยงเลี้ยงไม่ได้ รวมถึงรักษาเล็งเห็นมหันตภัยจากฝิ่นที่มีประกบประชาชนคนไทยด้วยกันคนทั่วโลก โดยประกอบด้วยระดับความเป็นอยู่สรรพสิ่งคนไทยดอยแห่งยุคตรงนั้นดึงพระราชหฤทัยแบ่งออกท่านมีพระราชดำริ ริเริ่มจ่ายก่อกำเนิดแผนหลวงขึ้นไปแห่งภาคเหนือ เพื่อจะเอาใจช่วยตัดทอนโจทย์กระยาเลยรวมหมดเนื้อความฝิ่นที่ดำรงฐานะยาเสพติดมหันตภัย งานทำเงิน ระดับสุขทุกข์กับสถานที่สำคัญสุดโต่งแห่งข้อความสิ่งของทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้น ดุจพระราชกระแสรับสั่งสิ่งของตุ๊เจ้าบาทาสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินคีรีไม่กำลังอดุลยเดชะที่พระราชทานข้อความโครงการเอื้อเฟื้อชาวดอย เมื่อครั้งไปดำรงเป็นเลิศคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ สิบ มกราคม 2517 กรณีตอนเอ็ดดุ “มันสมอง..เนื้อความที่ช่วยชาวดอยกับแผนการชาวเขานั้นมีค่าต่อหน้ากับดักชาวดอย เพื่อจะส่งเสริมและช่วยเหลือจ่ายคนดอยประกอบด้วยสุขทุกข์ดีขึ้น สมรรถที่จะเพาะปลูกสิ่งที่จะเป็นประโยชน์และเป็นรายได้กับเขาเอง ที่มีโครงการแบบนี้ วัตถุประสงค์อย่างหนึ่งก็รวมความว่ามนุษยธรรม โหยที่จะปันออกผู้ที่อาศัยที่แห่งทุรกันดารสมรรถที่จะมีความรู้กับพยุงเนื้อตัว ประกอบด้วยความจำเริญได้มา อีกอย่างหนึ่งก็เกิดเรื่องช่วยแห่งทางสถานที่ทุกคนเห็นตวาดควรเอาใจช่วย เพราะว่าเป็นปัญหาโค่ง ก็รวมความว่าปัญหากรณีสารเสพติด หากเราสามารถที่จะช่วยชาวดอย จ่ายสร้างผลิตผลแห่งเป็นผลดีเต็มแรง นกเขาจักเลิกล้มปลูกสารเสพติด ปลูกสร้างฝิ่น เป็นเหตุให้แผนการ การหยุดงานปราบการสูบฝิ่น และการขายฝิ่นเสียสะอาดอันนี้ก็สำเร็จอย่างหนึ่ง ผลอีกอย่างหนึ่งซึ่งประธานเต็มแรงก็รวมความว่า ชาวดอยตามที่รู้เป็นผู้ที่ว่าการเพาะเลี้ยงที่อาจทำให้ชาติเราไปไปสู่ภัยพิบัติได้ เพราะว่าที่ตัดหญ้าไพรและปลูกเพราะว่าวิธีสถานที่เปล่าตรงเผง ถ้าหากหมู่เราทุกคนจากไปช่วยเขา ก็เท่ากับสนับสนุนชาติจ่ายประกอบด้วยผลบุญ ความอยู่ดีกินดี กับปลอดภัยคว้าอีกตลอดแดน เพราะหากเราสามารถทำแผนตรงนี้แบ่งออกสำเร็จ จ่ายชาวเขาอยู่เป็นหลักแหล่ง สามารถที่จะมีการสุขสบายตามควรด้วยกันเอื้อเฟื้อแผนการที่จะรักษาพงพี พิทักษ์ธรณี จ่ายอำนวยประโยชน์ต่อไป คุณประโยชน์อันนี้จักยั่งยืนเต็มที่มันสมองมันสมองมันสมอง” แผนหลวงเป็นแผนการส่วนพระองค์ในที่ตุ๊เจ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินคีรีมิกำลังอดุลยอิทธิพล แห่งงานจรรโลงงานปลูกสร้างพฤกษาบุรีหนาว เพื่อประสบความสำเร็จหาเลี้ยงตัวทดแทนงานปลูกฝิ่นสรรพสิ่งชาวไทยภูเขา จัดตั้งขึ้นพอ พุทธศักราช 2512 เพราะว่าหม่อมเจ้าภีศบารมี ราตร ครอบครองผู้ดำรงรับผิดชอบที่ตำแหน่งสำคัญมูลนิธิแผนสาธารณะซึ่งผลเก็บเกี่ยวขนมจากโครงการสาธารณะแห่งปัจจุบัน มี ผักหนักแน่นสิ้นไร้มลสาร สมุนไพร โปกำด้วยกันธัญพืช ลูกไม้ เห็ด กุสุมาลย์บุรีหนาวเหน็บ ผลิตภัณฑ์ปศุ ผลิตภัณฑ์ประมง ผลิตภัณฑ์พง ดอกไม้แห้ง ผลิตภัณฑ์ขนมจากแฝก ค่าคบไม้กระถาง ด้วยกันผลิตภัณฑ์แปรธาตุในที่ชื่อการขาย ภูเขาคำ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นองค์การเอ็ดสถานที่มีแผนการตอบสนองพระมหากรุณาธิคุณนำสื่อมวลชนลงพื้นสถานที่ไปดูระดับความเป็นจริงอันก่อกำเนิดขนมจากความสำเร็จแห่งวิถีทางความคิดต่อจากนั้นทรงมุจัดการอย่างจริงจัง จัดโครงงาน“ขึ้นไปจอมภูเขา … เดินตามรอยชนก” แก่ขึ้นไปได้ได้โอกาสโคจรตามรอยเท้าพ่อ ขึ้นไปสู่สิงขรอินทนทานนท์ เพื่อจะดูผลที่เกิดขึ้นและมองดูความเปลี่ยนแปลงเหตุเดิมสังกัดคนเดินดินชาวไทยดอย เสร็จเอาธุระสื่อมวลชนได้มาเยี่ยมชมหน่วยงานนาหลวงอินทนนท์ ซึ่งดำรงฐานะสำนักงานวิจัยเอ็ดในที่มูลนิธิโครงการสาธารณะติดตามความต้องการสิ่งของตุ๊เจ้าพระบาทสมเด็จกษัตริย์พนมมิกำลังอดุลย์ยบารมี ซึ่งจัดตั้งขึ้นขึ้นไปเมื่อปี พ.ศ.2522 ที่ เนื้อที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนทานนท์ ท้องถิ่นบ้านสาธารณะ อ.จอมทอง บุรีเชียงใหม่ ที่นับเป็นศูนย์การศึกษาค้นคว้าไม้ดอกไม้ประดับแคว้นหนาวเย็น และค่าคบไม้ผลเขตหนาวเย็นขนาดย่อม รวมทั้งการขยายพันธุ์เพาะเลี้ยงเยื่อ พืชผัก พืชไร่ เพื่อเอื้อเฟื้อชาวไทยดอยปันออกมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในที่งานสร้างพฤกษาที่เป็นผลดีด้วยกันก่อสร้างรายได้แบ่งออกครอบครัว ตลอดจนครอบครองแหล่งทำความเข้าใจด้านไม้ค่าตอบแทนด้วยกันไม้ประดับแห่งสำคัญสิ่งของประเทศ ขนาดนั้น ยังได้ติดตามข้อมูลออกศึกษางานทีแผนการหลวงขุนห้วยหนองแห้งเช่นกัน แผนการหลวงเลี้ยงดูหนองแห้งนับว่าเป็นที่ทำการย่อยของสำนักงานนาสาธารณะอินทนทานนท์ บนบานเนื้อที่ 2,000 ที่ดิน งานหลักของประตูก็รวมความว่างานค้นคว้าวิจัยกิ่งไม้ข้อมูลออกขนาดย่อม เช่น องุ่น สตรอเบอปรี่ ต้นพลับ กับกีวี่ ยิ่งไปกว่านี้ยังประกอบด้วยไม้ดอกบุรีหนาวเย็น โดยหลัก ๆ จักครอบครองกุหลาบ ซึ่งลมฟ้าอากาศหนาวเหน็บในที่เนื้อที่เห็นแก่ต่อการเพาะเลี้ยงพฤกษาชนิดดังที่กล่าวมาแล้ว ที่แผนหลวงขุนห้วยแห้งนอกจากนั้นชาวเขาจักได้มาผลดีขนมจากงานค้นคว้าวิจัยแล้ว การจรรโลงจ่ายชาวเขาปลูกสร้างอีกต่างหากประสบความสำเร็จลดการนำเข้าปากไม้กุสุมาลย์เอาท์พุตจากต่างประเทศ โดยผลผลิตยังสมรรถส่งจรซื้อขายต่างประเทศได้มา รวมถึงครอบครองแหล่งท่องเที่ยวเพราะว่าในที่ทั้งหมดเหมันต์คนเดินทางสามารถลงมาท่องเที่ยวเห็นดอกเบี้ยพญาเสือโคร่ง ไม่ก็ซากุระเมืองไทย และแบบจรรายปีชนิดหนาแน่น พร้อมจับต้องบรรยากาศทัศนียภาพทิวภาพแห่งสวยหรู เมื่อไปออกไปติดสอยห้อยตามท้องถนนเลี้ยงดูกลางๆ-เลี้ยงดูแปะก็สมรรถเห็นพื้นที่เกษตรกรรมสิ่งของโครงกลางหลวงได้สัมผัสกรณีอะเคื้อยังไม่ตายสะอาดเลิศจรอีกบรรยากาศหนึ่ง พินทรัตติน์ แสนอารมณ์ทางใจเป็ง รองหัวหน้าฝ่ายวิชาการ แผนการหลวงขุนหนองแห้ง แบ่งออกข่าวสารว่า ระยะแรกแห่งโครงการสาธารณะเข้า เก่าแก่ประชาชนต่อต้านไม่ให้ความร่วมมือก็เพราะว่าแจ้งตวาดปลูกฝิ่นดีกว่าพร้อมด้วยเนื้อความเจน แต่ไม่ห่าง้าหน้าที่สรรพสิ่งโครงการ ชดใช้กรรมวิธีสิ่งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ปันออกใช้การฝังตัวสิงสู่กับคนธรรมดา กินนอนกับคนธรรมดา เพื่อให้ก่อกำเนิดเนื้อความไว้ใจ ไว้ใจ ทำเอาคนธรรมดาเห็นว่าที่โครงการเข้า หวังสนับสนุนคนเดินดินแน่ๆ กระเป๋าแห้งคนเดินดินก่อเกิดความไว้ใจ หลังจากนั้นแล้วก็ริเริ่มจรรโลงจ่ายปลูกสร้างพืชดอกไม้ผล ชนิดดอกกุหลาบกลุ่มต่างๆ เยอบีเบิกบาน สตรอเบอร์รี่กลุ่มพระราชทาน 80 “การปฏิบัติงานสิ่งของโครงการสาธารณะขุนหนองกะหร่องตรงนั้นครอบครองโครงการนำร่องปันออกคนธรรมดามาเรียนรู้ ส่งเสริมงานปลูกพฤกษาไร้ที่ดิน กิจธุระเพาะเลี้ยงเยื่อปะปนกัน ประการกุหลาบเริ่มส่งเสริมพรรษา 2551 ชาวนาชาวไร่ซื้อแขนงกลุ่มไปในที่สนนราคา 15 บาทา บุคลากรจะให้คำปรึกษาเนื้อความงานดูแล แบ่งออกขี้เซา งานตัดดอก แล้วแผนยอมรับจับจ่ายใช้สอยดอกกลับมาที่ราคาตั้งแต่ค่าตอบแทนละ 8-25 บาทาติดตามผลการเรียน ตีราคาเหนือชั้นกว่าวาณิชภูมิหลังรับซื้อ ก่อนจะส่งต่อจ่ายผู้ซื้อหลักเขตคือสำนักพระราชวัง, วังศุโขทัย ด้วยกันโรงพยาบาลศิริราช สร้างกันกะ 5 แสนต้นขายได้มารวมกระทั่ง 7 แสนบาทาต่อชันษา พอชาวนาชาวไร่ศึกษากับเข้าใจแห่งงานปลูกหลังจากนั้นจะชกต่อยอดอยากหรือไม่ก็หาท้องตลาดเองตกลง โน่นลงความว่าความมุ่งหมายปันออกนกเขาพึ่งพาตนเองได้มา” รองหัวหน้าฝ่ายวิชาการ เผยปันออกตรวจฟัง พินทรัตติน์ บ่งบอกตวาด คนไทยดอยในที่เนื้อที่เหมือนทั้งมวลอยู่รวมที่แผนการ เพราะว่าแผนมีหลักประกันที่เป็นมั่นเป็นเหมาะในที่งานรับสารภาพจับจ่ายใช้สอย ประชาชนเห็นจุดมุ่งหมายที่จะเข้าช่วยเหลือจริงของร่างการฯ ในเวลานี้ประกอบด้วยชาวไร่ชาวนารุ่นใหม่ ครอบครองผู้เยาว์แห่งเข้าผลัดเปลี่ยนต่อขนมจากพ่อแม่ เพราะว่าเงินรายได้ทำเอาปรับปรุงตำแหน่งทุกข์สุขที่ดีขึ้น พตำหนิสุกระจุก บรรพตวกวนา (พะกล่าวโทษ ดำรงฐานะภาษาขวิดเหล่า แปลว่า ไทรทอง) ชาวเขาเชื้อสายกรอมาเกเรอะญอ กรรมการกลุ่มไม้ดอกสรรพสิ่งโครงการ บอกแบ่งออกฟังดุ เมื่อก่อนนี้ทำไร่ฝิ่น ก็เพราะว่าไม่รู้จักสร้างหน้าที่อย่างไร กระเป๋าแห้งเมื่อชาติประกอบด้วยแผนการล้มล้างฝิ่นอย่างเอาเป็นเอาตาย พอชันษา 2527 จากการทำลายล้างคราวนั้นไม่ฉลาดจักก่อการงานเช่นไร แล้วก็คว้าเข้ามาร่วมกับแผนหลวง ตอนแรกที่แผนการสาธารณะเข้าจรรโลงปันออกสร้างผัก คนในหมู่บ้านไม่สนอารมณ์ทางใจด้วยกันคัดค้าน ทว่าครั้นเห็นผลว่าทำที่ดินติดสอยห้อยตามวิถีทางพระราชดำริหลังจากนั้นทำเอาทุกข์สุขดีขึ้นแล้วจึงร่วมอย่างเอาเป็นเอาตาย “เข้ารวมโครงการก็ริเริ่มขนมจากงานสร้างเยอบีเบิกบาน กะหล่ำปลี มะเขือเทศ และกุหลาบก่อน จนถึงในเวลานี้สร้างกุหลาบมา 5,000 ต้นไม้ บนพื้นที่ 1 ที่ดิน มีตระกูลดอยวิต้า, ไททานิก, เอลิซ่า, สโป่งไวท์ กับชมพอกุช พรรษาแรกแผนการสาธารณะลงทุนแบ่งออกแลกเปลี่ยนคว้าเท่าไหร่ต่อจากนั้นหักราคาซื้อไปคืนครึ่งหนึ่ง ขณะนี้บากกุหลาบมาส่งปันออกแผนการเฉลี่ย 60 ค่าตอบแทนประกบทิวากาล ได้มาดอกเว้น 15 พระบาท มีรายได้กะปีเว้น 300,000 เท้า หนี้สินก็จบ ส่งเด็กๆ เรียน ประกอบด้วยอนาคตกาลกับประกอบด้วยภารกิจหลักยึดคงอยู่” พกล่าวโทษสุกระจุกรายงานทิ้งท้ายพร้อมด้วยความภาคภูมิใจดุ โครงการหลวงเข้ามาพลิกฟื้นการงานจ่ายจรดไม่มั่งมีแต่ก็อยู่คว้าชนิดมีความสุข พอใจมากที่ในหลวงแผ่นดินสถานที่9เอาใจช่วยพวกเรา ทำให้ดิฉันมีภารกิจ ถ้าหากพระเจ้าแผ่นดินไม่มาก็เขลาอนาคตกาล จักปลูกอย่างไร ก่ออะไร อยู่กับดักแผนสาธารณะแห่งเพราะสร้างตกลง แผนสาธารณะให้ความรู้ ช่วยทำเอามีหน้าที่ หลังจากนั้นยังสอดส่องครัวเรือนทุกคนเช่นกัน จากเมื่อ 40 กระทั่งพรรษาที่แล้วที่ตุ๊เจ้าบาทาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูเขามิกองพลอดุลย์ยอิทธิพลรักษาพระสงฆ์ช่วยโปรดเกล้าฯแบ่งออกจัดตั้งแผนการหลวงขึ้นครอบครองโครงการส่วนพระองค์ เพื่อจะกระทำงานวิจัยเกี่ยวพฤกษานครหนาวเย็น แบ่งออกชาวเขาได้สร้างชดใช้ฝิ่นจนมีความเป็นอยู่ที่ทุเลา สามารถพึ่งพาอาศัยตัวเองได้ วันนี้ แผนการสาธารณะบ่งบอกถึงแล้วว่า สามารถจัดการติดสอยห้อยตามความประสงค์สรรพสิ่งท่านคุณ เลิกษฏรคนไทยดอยแห่งวันนี้ประกอบด้วยสุขทุกข์สถานที่ทุเลา มีความสุขอยู่บนบานรากฐานแห่งความพอเพียงพาง ครั้นประกอบด้วย พอเปลือง พอใช้ เปล่าเบียนทั้งสองฝ่าย เปล่าทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ประการสำคัญรวมความว่าขับไล่ฝิ่นมหันตภัยปันออกหมดจากไป เอ่ยปากคว้าอย่างสนิทปากตวาด แผนการหลวงพลิกฟื้นคืนชีวิตินทรีย์ กลับทรัพยากรธรรมชาติปันออกชาวไทยแบ่งออกประเทศไทยได้อย่างแท้จริง นี่รวมความว่าพระมหากรุณาธิคุณอันก่อกำเนิดจากพระราชหฤทัยกังวลราษฎรสรรพสิ่งท่าน ชาติแว่นแคว้นชนิดควานสุดโต่งไม่ใช่แน่แท้