แบนมันสำปะหลังพันธุ์ 89 เสี่ยงโรคใบด่าง!!

กรมวิชาการเกษตร ห้ามชาวนาชาวไร่ไม่สร้างมันสำปะหลังจำพวก 89 ต้านดำรงฐานะชนิดสุดๆอ่อนแอแพ้ทุกความเจ็บป่วยทั่วหัวเน่า พุ่มไม่คลาด้ และใบน้ำด่าง พูดเอาท์พุตแสกกลางนเนื้อที่ปลูกมันปัจจุบันพบความเจ็บป่วยใบด่าง 5 อ.ที่จังหวัดสระดาลัด กล่าวย้ำเป็นโรคระบาดมันสำปะหลังติดตลาดร้ายแรงเต็มที่สร้างผลิตภัณฑ์เสื่อมเสียสิ้นเชิง พอวันที่ 31 พ.ค.62 นางงามทำให้รุ่งเรืองขึ้นสบาย กลอนเพ็ชร อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยดุ ตั้งแต่ชันษา 2558-2561 กรมวิชาการเกษตรคว้าจัดการดูแลตื่นความเจ็บป่วยใบด่างมันสำปะหลังซึ่งประกอบด้วยสาเหตุเกิดจากเชื้อโรค Sri Lankan cassava mosaic virus (SLCMV) เพื่อจะป้องกันไม่แยกออกโรคภัยดังที่กล่าวมาแล้วเข้าในประเทศประเทศไทย ด้วยเหตุที่ติดสอยห้อยตามเสนอจากด้าวเวียดนามความเจ็บไข้ตรงนี้เป็นเหตุให้ผลิตภัณฑ์เสียหาย 50-100 อัตราร้อยละ แห่งประธานสามารถเข้าไปคร่ามันสำปะหลังคว้าทุกระยะห่างการขยายตัว เพราะกรมวิชาการเกษตรคว้าเอาจริงเอาจังการพาเข้ามันสำปะหลัง ด้วยกันสร้างการรับรู้โดยประชุมชี้แจงกับดักผู้เกี่ยวข้อง พร้อมกับจัดทำมาตรการด้านวิชาการ ด้านกฎเกณฑ์ ด้วยกันขนบธรรมเนียมจัดการรีบด่วนวางแผนวางแห่งความถ้าหากก่อกำเนิดงานแพร่เชื้อสิ่งของโรคภัยใบน้ำด่างมันสำปะหลังเข้าในประเทศแหลมทอง กระนั้นก็ตาม ขนาดที่ในฤดูปลูกมันสำปะหลังที่ปีที่ผ่านมาจักอีกต่างหากเปล่าพบความเจ็บป่วยใบน้ำด่างมันสำปะหลังในประเทศประเทศไทย แม้ว่าแห่งอุตุสร้างมันสำปะหลังพรรษา 2562 นี้ กรมวิชาการเกษตรได้มาร่วมกันกับกรมส่งเสริมการเกษตรและภาคเอกชน จัดการสืบสวนด้วยกันเฝ้าระวังความเจ็บป่วยใบน้ำด่างมันสำปะหลังประการข้นด้วยกันต่อเนื่อง ซึ่งการสำรวจปัจจุบันพานพบไม้มันสำปะหลังที่เป็นโรคใบน้ำด่างในเนื้อที่ 5 อำเภอ จำนวนรวม 18 ท้องถิ่นที่เมืองบ่อแก้ว และได้บริหารไม่จ่ายขนส่งแท่งชนิดแห่งเป็นโรคกระโดดเมือง เพื่อจะรักษางานกระจายเชื้อความเจ็บไข้ใบด่างจากไปอีกต่างหากเนื้อที่อื่น ที่ผ่านมา กรมวิชาการเกษตรคว้าจ่ายข้อแนะการกันการแพร่ระบาดสรรพสิ่งความเจ็บป่วยใบด่างมันสำปะหลังเหตุเดิมถ่มเชื้อไวรัส SLCMV เพราะว่าขอร้องชาวนาชาวไร่น่าจะพยายามตรวจเนรมิตปลูกมันสำปะหลังทุก 2 สัปดาห์ ผิพบพานพืชพันธุ์สถานที่แสดงอาการถูกสงสัยปันออกจัดการเอาคืนคร่าต้นไม้สถานที่ถูกสงสัยด้วยกันไม้ข้างเคียงที่พื้นที่ 4×4 เมตร (ไม่เลยจำนวน 16 พืชพันธุ์) เพราะวิธีฝังอำพรางในหลุมดึ่มไม่น้อยกว่า 2-3 เมตรทำกลบเช่นกันธรณีครึ้มไม่ใช่หยอกกระทั่ง 0.5 เมตร กับฉีดพ่นช้างเอาชีวิตตัวแมลงเพื่อจ่ายแมลงหวี่หงอกยาสูบ เช่นกันช้างเคมีอิลับลี้าโคลพริด 70% WG อัตรา 12 กรัมประกบลำธาร 20 ลิตร หรือ ไดโป่งครั้งฟ่องฟูแรน 10% SL อัตรา 20 มล.ประกบสายธาร 20 ล. หรือไม่ก็ ความเป็นอิสระอะประกอบด้วยโทแซม 25% WG อัตรา 12 กรัมประกบสายธาร 20 ล. แห่งสร้างสถานที่พานพบอิริยาบถต้องสงสัยกับแปลงละม้าย เพื่อจะดูแลจ่ายแมลงหวี่ขาวยาสูบซึ่งดำรงฐานะแมลงสื่อนำความเจ็บป่วยที่สำคัญ “ขนมจากผลการสำรวจพืชพันธุ์มันสำปะหลังสถานที่พานพบเป็นโรคใบน้ำด่าง มูลเหตุประธานมาจากเกษตรกรปลูกสร้างมันสำปะหลังตระกูล 89 ซึ่งแม้จักใหญ่เจริญกับจ่ายน้ำหนักดี แม้ว่าดำรงฐานะจำพวกมันสำปะหลังที่อ่อนแอทาบทั้งหมดโรคภัยของมันสำปะหลัง เช่น ความเจ็บป่วยกระหม่อมเน่าเหม็น กระพุ่มไม่ห่าง้ กับใบด่าง เพราะฉะนี้แล้วก็ขอให้ชาวไร่ชาวนาหลีกเลี่ยงจรปลูกสร้างชนิดอื่น และต้องมาจากเนรมิตสถานที่เกิดไม้ชนิดสะอาดสะอ้านและปราศจากความเจ็บไข้ รวมทั้งไม่ใช้ตนตระกูลที่ซ่อนเร้นนำเข้ามาจากต่างด้าว เนื่องจากคงมีความเจ็บไข้ใบด่างใกล้เข้ามากับตนชนิดเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เกิดการระบาดแห่งฤดูปลูกสร้างภายหลังได้ ทั้งนี้ ผิมีความเจ็บป่วยใบด่างมันสำปะหลังเหตุเดิมขนมจากเชื้อไวรัส SLCMV เข้ากระจายเชื้อในประเทศจักทำให้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังสิ่งของชาวไร่ชาวนาเสียหายอย่างสิ้นเชิงไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เลย ก็เพราะว่าแก่เป็นโรคกระจัดกระจายแห่งแรงสุดโต่งสรรพสิ่งมันสำปะหลัง”อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เสนอ